ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

การลงโทษจากการ สบประมาทพระเจ้าผู้ทรงอำนาจ และการดูหมิ่นสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ ตอนที่ 3 จาก 3 ตอน

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
ในตอนก่อนหน้านี้ เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับ การทำลายวัดและรูปปั้นพระพุทธรูป อย่างกว้างขวาง ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรมในประเทศจีน ระหว่างปี 1966 ถึง 1976 การกระทำอันดูหมิ่นเหล่านี้ ไม่เพียงแต่ทำลายมรดกทางวัฒนธรรม และทำอันตรายจิตวิญญาณ ของชาติเท่านั้น แต่ยังทำให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง ต้องเผชิญกับผลที่ตามมา อย่างรวดเร็วและรุนแรงอีกด้วย

ในปี 1969 เขตทหารปักกิ่ง ได้โจมตีวัดอู่หลาง และถ้ำเพชรบนภูเขาอู่ไถ เพื่อสร้างบ้านพักตากอากาศ ให้กับหลินเปียวซึ่งเป็นผู้นำทางทหาร ที่มีชื่อเสียง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าว มีฮวงจุ้ยที่โดดเด่น ส่งผลให้ พระพุทธรูป สถาปัตยกรรมและโบราณวัตถุ ถูกทำลายเกือบทั้งหมด

ระหว่างที่เกิดการระเบิด มีเมฆประหลาดปรากฏขึ้น บนท้องฟ้าทันที ช่างภาพสามารถจับภาพปรากฏการณ์ ที่ไม่ปกตินี้ได้อย่างรวดเร็ว ภาพถ่ายอันทรงคุณค่า ได้แสดงภาพของ พระโพธิสัตว์มัญชุศรี ซึ่งประดิษฐานอยู่ที่วัดเซียงฟู่ ได้อย่างชัดเจน

ในความเป็นจริงแล้ว ครอบครัวของเขามาสถานที่ที่ถูกทำลาย เพื่อสร้างบ้านพักตากอากาศ สำหรับหลินเปียวแค่ครั้งเดียวเท่านั้น ทั้ง ๆ ที่โบราณวัตถุทางวัฒนธรรม และทางประวัติศาสตร์ นับพันชิ้นสูญหายไป เชื่อกันว่าเรื่องนี้ เกี่ยวข้องกับ การที่เขาทำลายภูเขาอู่ไถ และวัดต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ เชื่อกันว่าการกระทำ อันดูหมิ่นดังกล่าวนำไปสู่ กรรมสนองซึ่งส่งผลให้ เขาต้องเผชิญกับผลที่ตามมาจาก ความเสียหายที่เขาได้ก่อไว้

เหตุใดเขาถึงต้องทำถึงขนาดสร้าง บ้านพักตากอากาศส่วนตัว แต่กลับอยู่ที่นั่นแค่ครั้งเดียวเท่านั้น? หลังจากที่บ้านพักตากอากาศสร้างเสร็จ เขาก็เกิดอาการป่วยแปลก ๆ คือ มีอาการไวต่อทั้งความหนาวและ ความร้อน ปวดไหล่เรื้อรัง นอนไม่หลับ และรู้สึกกระสับกระส่าย ตลอดทั้งวัน และจะแย่ลงในเวลากลางคืน แม้จะต้องเข้าโรงพยาบาลหลายครั้ง แต่ก็ไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ ราวกับว่าเป็นจิตวิญญาณ ที่ไม่สงบจากยมโลก ที่กำลังแสวงหาการแก้แค้น ในที่สุด ระหว่างการดิ้นรนแย่งชิงอำนาจ แผนการลอบสังหารเหมาเจ๋อตุง ของเขาก็ถูกเปิดเผย ในปี 1971 หลินเปียว พร้อมด้วยภรรยาและลูกชาย เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเครื่องบินตก ขณะพยายามหลบหนีไปมองโกเลีย

ไม่มีใครคาดเดาได้ว่า การกระทำในอดีตจะ ยังคงสร้างเงาดำปกคลุม ปัจจุบัน เนื่องจากการกระทำหมิ่นประมาทศาสนา ยังคงเกิดขึ้นในปัจจุบัน ในเดือนกรกฎาคม 2016 ทางการปักกิ่งได้ส่งกองทัพไปทำลาย สถาบันพุทธศาสนิกชนลารุง การ์ ซึ่งเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และเป็นศูนย์กลางการศึกษา พระพุทธศาสนาแบบทิเบต ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโลก การทำลายล้างครั้งนี้ ก่อให้เกิดความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ ต่อชุมชนชาวพุทธ และวัฒนธรรมดั้งเดิม ของภูมิภาค

ห้องพักของสถาบันพุทธศาสนิกชน ลารุง การ์ถูกทำลายไป มากกว่า 3,200 ห้อง พระภิกษุและแม่ชี ถูกบังคับให้ลงนามเอกสาร ลาออกโดยสมัครใจ ถูกบังคับให้ละทิ้งคำปฏิญาณ และแต่งงาน และถูกทำให้ขัดต่อศีล และความเชื่อทางศาสนาของตน บางคนยังถูกทรมาน และจำคุกด้วยซ้ำ

ในปี 2017 รัฐบาลจีน ยังคงบังคับใช้ นโยบายที่เข้มงวด เพื่อควบคุมกิจกรรมทางศาสนา และวัฒนธรรมของชุมชนมุสลิม ในซินเจียง การควบคุมนี้ส่งผลกระทบอย่างแรงต่อ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของอิสลามในภูมิภาค ตัวอย่างที่น่าสังเกต ได้แก่ การทำลาย มัสยิดฮวนหูและมัสยิดเทียนซาน ในเมืองอุรุมชี ซึ่งส่งผลให้เกิด การสูญเสียทางวัฒนธรรมและศาสนา ครั้งใหญ่สำหรับชุมชนมุสลิม ในประเทศจีน

รูปปั้นพระแม่กวนอิมปางประทานพร ที่วัดฮวงอัน ในเหอเป่ย ประเทศจีน ที่มีการแกะสลักไว้บนหน้าผา เป็นสัญลักษณ์ ของความเมตตาและการไถ่บาป และมีบทบาทสำคัญ ในการรักษาและส่งเสริม คุณค่าทางจิตวิญญาณและศาสนา อย่างไรก็ตาม ในปี 2019 การทำลายสถานที่แห่งนี้ ได้ก่อให้เกิดความโกรธแค้น และความไม่พอใจ ในหมู่ชุมชนศาสนาและนักอนุรักษ์มรดก ซึ่งมองว่าการกระทำนี้ เป็นการดูหมิ่นมรดกทางวัฒนธรรม และทางศาสนาอย่างร้ายแรง

ในปี 2019 รัฐบาลจีน ได้สั่งทำลาย ศีรษะของรูปปั้น พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ที่มีความสูงเกือบ 60 เมตร โครงการนี้ เป็นการแกะสลักลงบนหน้าผา ซึ่งมีมูลค่าเกือบ 60 พันล้านดอง (~2.4 ล้านเหรียญสหรัฐ) เนื่องจากเกรงว่า ประชาชนจะพยายามสร้างขึ้นมาใหม่ เจ้าหน้าที่จึงได้จุดชนวนระเบิด รูปปั้นทั้งองค์ในภายหลัง

ในช่วงเวลาเดียวกันนั้น พระพุทธรูปองค์ใหญ่เซียฉุ่ย อันสง่างาม ในเมืองกุ้ยหยาง มณฑลกุ้ยโจว ก็ถูกทำลาย กลุ่มหน่วยงานท้องถิ่นได้ปิด ตา จมูก หู ปาก และแก้ม ของรูปปั้นด้วยปูนซีเมนต์ โดยอ้างว่า "เพื่อเสริมความแข็งแรง ให้กับโครงสร้าง" แต่ในความเป็นจริงแล้ว พวกเขากลับทำ ให้หน้าของพระพุทธรูปแบนราบลง

เราไม่สามารถมองข้ามการทำลาย ทางศาสนาอย่างไม่หยุดหย่อนเหล่านี้ได้ ซึ่งจุดชนวนให้เกิดความโกรธแค้น อย่างกว้างขวางโดยไม่พิจารณา ถึงผลที่ตามมาของพวกมันได้ ภัยพิบัติทางธรรมชาติเกิดขึ้น อย่างต่อเนื่อง ไม่เพียงแต่ในช่วง ปฏิวัติวัฒนธรรมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงในปีต่อ ๆ มาด้วย และยังคงเกิดขึ้นจนถึงปัจจุบัน ความถี่ของภัยพิบัติทางธรรมชาติ ในประเทศจีน เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในช่วงไม่กี่ทศวรรษที่ผ่านมา ประเทศได้ประสบ กับอันตรายร้ายแรงเกือบทั้งหมด รวมถึงแผ่นดินไหว พายุไต้ฝุ่น น้ำท่วม ภัยแล้ง พายุทราย คลื่นพายุซัดฝั่ง ดินถล่ม ตะกอนไหล พายุลูกเห็บ คลื่นความหนาวเย็น คลื่นความร้อน โรคแมลง และสัตว์ฟันแทะ ไฟป่าและทุ่งหญ้า และปรากฏการณ์น้ำทะเลแดง เหตุการณ์เหล่านี้ทำให้เกิด ความเสียหายร้ายแรงต่อยานพาหนะ บ้านเรือน พืชผลทางการเกษตร และส่งผลให้เกิด การสูญเสียชีวิตของผู้คนอย่างน่าสลดใจ

ผลจากการทำลาย พระพุทธรูป และสัญลักษณ์ศักดิ์สิทธิ์ สามารถเป็นเหตุให้ สวรรค์และโลกพิโรธได้ไหม?

เมื่อสองพันปีก่อน อัฟกานิสถานเป็นศูนย์กลาง สำคัญของศาสนาพุทธ โดยเฉพาะในหุบเขาบามิยัน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เจริญรุ่งเรือง ตามเส้นทางสายไหมในตำนาน เมื่อต้นคริสต์ศตวรรษที่ 6 พระพุทธรูปถูกทำลาย อย่างน่าเศร้าสลดใจ ไปทั่วโลก การกระทำอันโง่เขลาของการดูหมิ่น สิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่อพระเจ้านี้ เปิดประตูสู่เรื่องราวกรรมสนอง อันลึกลับและล้ำลึก ซึ่งทิ้งร่องรอยการหลอกหลอน ไว้ในประวัติศาสตร์มนุษยชาติ

ในปี 2001 พระพุทธรูปองค์ใหญ่ สององค์ได้ถูกทำลาย พระพุทธรูปองค์ใหญ่ สูงประมาณ 53 เมตร เป็นรูปพระศากยมุนีพุทธเจ้า และเป็นพระพุทธรูปยืน ที่มีความสูงที่สุด องค์หนึ่งในโลก นักวิชาการหลายคนเชื่อว่า พระพุทธรูปที่เหลือ ซึ่งมีความสูง 35 เมตร เป็นพระพุทธรูปไวโรจนะ มีการแกะสลักรูปปั้นทั้งสอง ไว้ในซอกหินผา

วันที่ 14 มีนาคม 2001 กลุ่มก่อการร้ายอิสลาม ได้บังคับให้ผู้ต้องขังนำระเบิด ไปติดไว้บนพระพุทธรูป ผู้บังคับบัญชาสั่งให้ใช้ ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน โจมตีบริเวณยอดรูปปั้น แม้กระนั้น รูปปั้นเหล่านี้ก็ยังพิสูจน์ ให้เห็นว่ายากเหลือเกินที่จะทำลายซึ่ง ขัดต่อความพยายามของกลุ่มหัวรุนแรง แม้ว่าพื้นผิวจะได้รับ ความเสียหายอย่างหนัก แต่พระพุทธรูปทั้งสององค์ ยังคงตั้งตรงและสมบูรณ์ กลุ่มก่อการร้ายจึงได้วางระเบิด ไว้ที่ฐานของรูปปั้น เพื่อทำลายพวกมันจากด้านล่าง ด้วยความมุ่งมั่น ที่จะทำลายพวกมันให้สิ้นซาก พวกเขายังได้ใส่ วัตถุระเบิดเข้าไปในรอยแยก บนร่างของรูปปั้น เพื่อดึงออกจากหน้าผาอีกด้วย นอกจากนี้ กลุ่มก่อการร้าย ยังปีนหน้าผาไปวางทุ่นระเบิด ในโพรงของรูปปั้น และในที่สุด ก็ใช้ขีปนาวุธทำลาย ส่วนหัวของรูปปั้นจนหมดสิ้น

กลุ่มก่อการร้ายได้ทำลายผลงานชิ้นเอก ทางวัฒนธรรมที่ล้ำค่าเหล่านี้ ด้วยความตาบอดและความเห็นแก่ตัว ทำให้มนุษยชาติต้องเผชิญ ความเจ็บปวดและหมดหนทาง เนื่องจาก การวางแผนทางการเมืองที่ซับซ้อน ของอัฟกานิสถานกำลังส่งผลกระทบ ต่อมรดกอันศักดิ์สิทธิ์ของโลก เก้าเดือนหลังจากการทำลาย พระพุทธรูปองค์ใหญ่สององค์ กลุ่มก่อการร้าย ที่ควบคุมพื้นที่อัฟกานิสถาน ไว้ถึง 90% ล่มสลายอย่างรวดเร็ว ในเวลาเพียงเดือนเดียว ภายใต้การโจมตีของกองกำลังผสม ที่นำโดยสหรัฐฯ ในสงครามต่อต้าน การก่อการร้ายทั่วโลก หลายคนเชื่อว่าการล่มสลายครั้งนี้ เป็นผลโดยตรงที่เป็นรูปแบบหนึ่ง ของกรรมสนองของพระเจ้า สำหรับการลบหลู่ศาสนาของพวกเขา ในการทำลายแหล่งมรดก ทางวัฒนธรรมอันศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้

วันที่ 5 กรกฎาคม 2008 ท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ (วีแกน) ได้แบ่งปัน วิธีการป้องกัน ภัยพิบัติทางธรรมชาติและเอาชนะ ภัยพิบัติต่าง ๆ ด้วยความเมตตา

เป็นวีแกน และช่วยเหลือซึ่งกันและกัน นั่นคือทั้งหมดที่เราต้องทำ และภัยพิบัติของดาวเคราะห์ จะมาถึงจุดจบ และสิ้นสุดเป็นศูนย์ ภัยพิบัติทุกประเภท รวมถึงภัยธรรมชาติ ล้วนเกิดจากฝีมือมนุษย์ สร้างขึ้นโดยฝีมือมนุษย์ ในแง่ที่ว่ามันถูกสร้าง จากพลังงานด้านลบ ที่เราสร้างมาเป็นเวลาหลายศตวรรษ หรือหลายล้านปี "หว่านพืชเช่นไรย่อมได้ผลเช่นนั้น" หากคุณทำสิ่งไม่ดี ผลร้ายนั้นก็จะย้อนกลับมาหาเรา ไม่ช้าก็เร็ว

ง่ายมาก เป็นวีแกน มีความรักและความใจดี จงให้อภัย และถ้าเป็นไปได้ จงเป็นผู้ถือแสงสว่าง ความหมาย คือ ให้รู้แจ้ง นั่นน่าจะเพียงพออย่างแน่นอน ในการปกป้องชีวิตของคุณบนโลก และปกป้อง สถานที่ในสวรรค์
รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
38:04

ข่าวเด่น

138 รับชม
2024-12-20
138 รับชม
2024-12-19
786 รับชม
35:17

ข่าวเด่น

131 รับชม
2024-12-19
131 รับชม
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์