ค้นหา
ไทย
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
  • English
  • 正體中文
  • 简体中文
  • Deutsch
  • Español
  • Français
  • Magyar
  • 日本語
  • 한국어
  • Монгол хэл
  • Âu Lạc
  • български
  • Bahasa Melayu
  • فارسی
  • Português
  • Română
  • Bahasa Indonesia
  • ไทย
  • العربية
  • Čeština
  • ਪੰਜਾਬੀ
  • Русский
  • తెలుగు లిపి
  • हिन्दी
  • Polski
  • Italiano
  • Wikang Tagalog
  • Українська Мова
  • อื่น ๆ
ชื่อ
การถอดเสียง
ต่อไป
 

ผีก่อกวนประกาศอย่างผิด ๆ ว่า เขาคือพระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า ตอนที่ 3 ของ 9 ตอน

รายละเอียด
ดาวน์โหลด Docx
อ่านเพิ่มเติม
พวกท่าน (นักบุญของกาวด่าย) ก็ขอให้ฉันบอกโลก เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า: “เหว่บู๋ เขาถูกศาสนากาวด่าย ประณาม มานานแล้ว เขาออกมา หลังจากรอนานมาก ที่จะมีโอกาส อ้างตนเป็นพระพุทธเจ้า อย่างผิด ๆ มันเป็นบาปอันใหญ่หลวงที่เขาทำ” เขาจะทำอะไรได้? ตลอดชีวิตของเขา เขาไม่ได้ทำอะไรเลย “ใช้ชีวิตเป็นสาวกกาวด่าย! แล้วเปลี่ยนมานับถือศาสนาพุทธ แล้วก็แอบเข้ามา ในสมาคม... เขาอ้างว่าเขาพยายามค้นหา หนทางและทั้งหมดนั้น ไม่ เขาแค่ไปวัดกาวด่าย ในฐานะคนหาผลประโยชน์ เพื่อแสวงหาผลกำไร จากชื่อเสียง โชคลาภ และความสะดวกสบาย นอกจากนี้เขายังแอบเข้าไปในกลุ่ม ประทับจิตของท่านด้วยเหตุผลเดียวกัน”

มาดูกันว่านักบุญ บ่นเรื่องอะไร ฉันเขียนไว้เล็กน้อยที่นี่ เพื่อที่ฉันจะได้จำได้ ตอนนี้ พวกท่านมีสี่เหตุผล ฉันถามพวกท่านว่าอะไรคือเหตุผล ข้อแรก พวกท่านขอให้ฉัน “ทำให้ชื่อเหว่บู๋ให้คนทั่วไปได้รู้” เพราะฉันไม่ได้ต้องการทำเช่นนั้น หลังจากที่ฉันรู้เกี่ยวกับเขา และฉันเห็นเขาเขียนซิกแซก และแปลงพระสูตรและทั้งหมดนั้น และกล้าที่จะอ้างว่า เขาเป็นพระเมตไตรยพุทธเจ้า ฉันก็สงสัยในตัวเขา และเขาก็ยังคงติดกับชื่อของฉัน ฉันถามนักบุญกาวด่ายว่า “แต่เขาเคยสรรเสริญฉันมาก่อน แล้วถ้าเขาอยากทรยศฉันจริง ๆ ทำไมเขาถึงทำแบบนั้น?” มันสับสนนิดหน่อย แม้แต่สำหรับฉันในตอนแรก เพราะฉันไม่ได้คิดอะไรมากเกี่ยวกับมัน หางของเขาโผล่ออกมาภายหลัง!

โอเค เรามาดูเหตุผลของนักบุญว่า ทำไมพวกท่าน จึงต้องการให้ฉันบอกผู้คน นักบุญบอกฉัน ว่ามีสี่ข้อ และพระองค์ท่าน กษัตริย์ อนุมัติทั้งหมดนั้นเช่นกัน โฆษกพูดกับ ที่ประชุมทุกคนที่นั่น แล้วกษัตริย์ ก็ตรัสต่อหน้าทุกคน นี่มาจาก พระองค์ท่าน กษัตริย์ แห่งอาณาจักรกาวด่าย: ข้อแรกคือพวกท่านต้องการ "บอกคนอื่นให้บอกกันว่า อย่าไว้ใจเหว่บู๋ เพราะเขาโกหก เขาไม่เคยเห็น อดีตชาติของเขาเลย เขาแค่ประกาศออกมา เขาบอกว่า เขากลับมาเกิดหลายครั้ง พอ ๆ กับพระศรีอริยเมตไตรย หมายถึงว่าาเขาคือพระเมตไตรย” เขาชอบคิดว่าเขาเป็น นั่นไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ สถานะของพระพุทธเจ้าเลย ไม่มีใครจะเชื่อความเชื่อมโยง ที่ไร้สาระ และโง่เขลาเช่นนี้ มันเป็นการดูถูกสติปัญญาของคุณ! “แม้ว่าเขาจะกลับมาเกิด พอ ๆ กับหรือเป็นสองเท่าก็ตาม แต่มันก็ไม่เกี่ยวข้องอะไร กับสถานะพระพุทธเจ้า” นักบุญจึงได้อธิบายให้ฉันฟัง เช่นเดียวกับเทวทัต หรือมาร เขากลับมาเกิด พร้อมกับพระศากยมุนีพุทธเจ้าเสมอ และก่อกวนพระองค์อยู่ตลอดเวลา ทุกชาติที่พระพุทธเจ้ามาจุติ เทวทัตก็มาด้วย แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เขาเป็นพระพุทธเจ้า

และเพื่อเน้น สิ่งสำคัญอย่างหนึ่ง คนที่ทำงานเป็นคนทรง ก็เหมือนกับผู้ถ่ายทอด คำสอนของนักบุญ นักบุญจะลงมาสอน โดยใช้ปากของเขาพูดคุยกับ คนที่รับผิดชอบกับการจดหรือ บันทึกให้กับลูกศิษย์ของพวกเขา ให้กับคนที่ศรัทธาของพวกเขา ไว้ศึกษาต่อไป ภายใต้นักบุญ เพราะนักบุญไม่อยู่ในร่างกาย พวกท่านจึงใช้ ร่างของคนทรง พูดคุยกับผู้ศรัทธาของพวกเขา และนั่นก็เกิดขึ้น นั่นก็เป็นไปได้ ฉันจะพูดเพิ่มเติมภายหลัง ดังนั้น เหว่บู๋โกหก ในหลายวิถีทางเกินไป

โอเค มีสี่อย่าง ที่พวกท่านบอกฉัน ข้อแรก คุณได้ยินแล้ว เช่น "บอกผู้คนให้บอกกันว่า อย่าไว้ใจ เหว่บู๋" และข้อสอง สิ่งที่พวกท่านต้องการ ให้ผู้คนบอกกันคือ: "เหว่บู๋ทำลายชื่อเสียง ระดับโลกของกาวด่าย" และข้อสาม “เขาแอบบิดเบือนหลักคำสอน เพื่อ ชื่อเสียงและโชคลาภของเขาเอง” และตอนนี้ ข้อสี่คือ พวกท่านต้องการให้ผู้คนรู้ว่า เขาไม่ใช่คนที่พวกเขา ควรศรัทธาอีกต่อไป "เพราะการขัดขวาง สันติภาพโลก" นั่นคือข้อที่สี่ ดังนั้น:

สี่ประการที่ นักบุญกาวด่าย ต้องการให้คนทั่วโลก รู้เกี่ยวกับเหว่บู๋:

1. อย่าไว้ใจ เหว่บู๋

2. เหว่บู๋ทำลายชื่อเสียงของกาวด่าย ทั่วโลก

3. เหว่บู๋แอบปลอมแปลง หลักคำสอนเพื่อชื่อเสียง และโชคลาภของตนเอง

4. เหว่บู๋ไม่ได้เป็นผู้ศรัทธา ต่อพวกเขาอีกต่อไป เพราะ การขัดขวางสันติภาพของโลก

ฉันจึงถามว่า คำสอนประเภทใด เพราะฉันเห็นแต่ หลักคำสอนของพุทธเท่านั้น พวกท่านบอกว่าเขา...อะไรนะ? พวกท่านกล่าวว่าเขา "ปลอมแปลง อย่างลับ ๆ หลักคำสอนของกาวด่ายด้วย” อีกด้วย สิ่งนั้น ฉันไม่สามารถบอกได้ ฉันไม่คุ้นเคยกับมันนัก และแม้ว่าฉันรู้ มันก็เป็น หลักคำสอนที่ยาวมากที่จะบอก อย่างไรก็ตาม ฉันเดาว่า พวกท่านต้องการบอกผู้คนว่า สิ่งที่เขาพูดบนอินเทอร์เน็ตนั้น ไม่เป็นไปตาม คำสอนของกาวด่าย จากนักบุญ จากอาณาจักรกาวด่าย เสมอไป เพราะเขาปลอมแปลง ให้เข้ากับตัวเอง ตัวอย่างคือ เขาปลอมแปลง อวตังสกสูตร เขาอ้างตำแหน่งพระเมตไตรย และขู่ว่าจะ “ฟ้อง” ใครก็ตาม รวมทั้งฉันด้วย ผู้อ้าง “ตำแหน่งบริษัท” ของเขา – หมายถึงอ้างตำแหน่งพระเมตไตรย พระเจ้า เขาทำให้พระพุทธเจ้า กลายเป็นธุรกิจแล้ว! เขาขายพระพุทธเจ้า!

Excerpt from “Is Suma Ching High the Female Grand Master in the Avataṃsaka Sūtra?” by Huệ Bửu – Sep. 2, 2023: และสุธนะในวัยเยาว์ เป็นภาพของพระศรีอริยเมตไตรย ผู้ได้รับการบูชา ผู้กลับชาติมาเกิด ในเวียดนาม สุธนะในวัยเยาว์ เป็นภาพของพระศรีอริยเมตไตรย ผู้ได้รับการบูชาในการเดินทาง เพื่อแสวงหาเต๋า และท่านได้พบ และพบกับ "วซูมาตรา" ผู้ยิ่งใหญ่ (หมายเหตุ: สะกดผิด) พระนามแท้จริงของท่านคือวาสุมิตรา แน่นอน พวกเขาไม่เชื่อ ใน "วซูมาตรา" ผู้มีความดีอย่างยิ่ง (หมายเหตุ: สะกดผิด) พระนามแท้จริงของท่านคือวาสุมิตรา ดังนั้น เมื่อพวกเขาเห็น ว่าสุธนะในวัยเยาว์ ผู้ที่เป็นภาพของ พระศรีอริยเมตไตรยผู้ได้รับการบูชา เดินทางไปแสวงหาเต๋า ต้องการพบกับ "วซูมาตรา" (หมายเหตุ: สะกดผิด) พระนามแท้จริงของท่านคือวาสุมิตรา พวกเขารู้สึกสงสารและเมตตา ต่อสุธนะในวัยเยาว์ พวกเขายินดี เมื่อพวกเขาได้ทราบว่า สุธนะในวัยเยาว์ ผู้ที่เป็น ภาพของพระศรีอริยเมตไตรย ผู้ได้รับการบูชา ที่เป็นแสวงหา "วซูมาตรา" (หมายเหตุ: สะกดผิด) พระนามแท้จริงของท่านคือวาสุมิตรา

เขาแค่ใส่พระนามของ พระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า เหนือพระสุธนะซึ่งเป็นอัครสาวก ของพระโพธิสัตว์กวนอิม แล้วอ้างว่าอัครสาวก สุธนะ คือตัวเขา! และเขาก็เพิ่มภาพ เขาบอกว่ามี "รูป” ของพระศรีอริยเมตไตรย ซึ่งก็คือ สุธนะ

โพสต์บนเฟซบุ๊ก โดย เหว่บู๋ 23 สิงหาคม 2024: นอกจากพระสูตรเชื้อสาย พระศรีอริยเมตไตรยแล้ว พระศากยมุนีพุทธเจ้า ยังได้พยากรณ์ไว้ใน อวตังสกสูตร บทที่ 39 เรื่อง “การเข้าสู่แดนธรรม" เกี่ยวกับสุธนะ ที่เดินทางไปแสวงหาธรรมะ ในภาคใต้ สุธนะได้พบกับ “ท่านหญิงวาสุมิตรา" ซึ่ง คือท่านอนุตราจารย์ชิงไห่ เหล่านี้คือ “ที่ปรึกษา ทางจิตวิญญาณผู้รู้แจ้ง" ที่สุธนะต้องพบเจอใน การเดินทางอันยากลำบาก เพื่อแสวงหาธรรมะ จนกระทั่งสุธนะตระหนัก ว่าชีวิตที่ไม่มีที่สิ้นสุดและ ไร้ขอบเขตของท่านเอง ก็ไม่ต่างจากชีวิตที่ไม่มี ที่สิ้นสุดและไร้ขอบเขต ของพระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า ผู้เป็นที่สักการะบูชาก็หมายความว่า ท่านได้บรรลุการรู้แจ้งแล้ว

สับสนมาก ไม่มีตรรกะเลย ไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก แค่คุณอ่าน ต้นฉบับของอวตังสกสูตร คุณจะรู้ว่า มันไม่เป็นอย่างนั้นเลย เขาเพิ่มเข้าไปเพื่อที่ เขาจะสามารถอ้างว่าเป็น พระศรีอริยเมตไตรยพุทธเจ้า โอ้ พระเจ้า! แต่แน่นอน ฉันถามว่า “ทำไมเขาถึงทำอย่างนั้น?" เหล่านักบุญบอกฉันว่า “เพราะเขา ทำงานให้กับราชาแห่งมาร ทำเพื่อมาร เขาเป็นลูกน้องของมาร และเขาเป็นเพียงผีก่อกวน ตำแหน่งคนทรง ที่ทำงานให้กับมาร”

ต่อมาในบทเดียวกันนั้น สุธนะได้พบกับพระเมตไตรย ดังนั้นทั้งสองและเหว่บู๋ จึงเป็นสามคนที่แตกต่างกัน ดังนั้นการที่เขาอ้างว่า ทั้งสุธนะ และพระเมตไตรย คือตัว เหว่บู๋เอง จึงทำให้มีสามคนอยู่ในหนึ่งเดียว มันเป็นเรื่องวิปลาสอย่างแน่นอน

หลักฐานที่พิสูจน์ว่าสุธนะ และพระศรีอริยเมตไตรย เป็นสองตัวตน ที่ต่างกัน จากอวตังสกสูตร บทที่ 39 (ต้นฉบับ แปลจากภาษาจีนเป็น ภาษาอังกฤษโดยโทมัส เคลียรี)

“สุธนะและพระศรีอริยเมตไตรย ถูกอธิบายว่าเป็นคนละคนกัน: “สุธนะ ยืนอยู่ที่เชิง หอคอย ปรารถนาที่จะได้พบกับ พระอริยเจ้าผู้ทรงตรัสรู้และปรารถนา ที่จะได้พบกับพระเมตไตรย จากนั้นท่านก็เห็นพระเมตไตรย อยู่นอกหอคอย เสด็จมาจาก ที่อื่น […] เมื่อเห็นพระเมตไตรยแล้ว สุธนะก็มีความอิ่มเอิบใจ มีความสุขและปิติมาก และก้มลงกราบ พระเมตไตรยแต่ไกล”

สุธนะและพระเมตไตรย มาจากคนละเมือง “สุธนะกล่าวว่า “‘ท่านมาจาก ที่ไกลแค่ไหน?’” […] พระเมตไตรยกล่าวว่า […] ‘ฉันมาที่นี่ จากหมู่บ้านกุฏิ ในดินแดนของมาลาดา ซึ่งเป็นดินแดนที่ฉันเกิด’”

ในขณะที่ สุธนะมา จากเมืองธัญญะการะ ดังที่กล่าวไว้ ในบทก่อนหน้านี้: “เวลานั้น ชาวเมือง [ธัญญะการะ] ได้ยินว่า พระมัญชุศรีเสด็จมาแล้วและ ประทับอยู่ในศาลเจ้า ในป่า […] จากนั้น สุธนะ เด็กหนุ่มผู้โดดเด่น พร้อมด้วย กลุ่มเด็กหนุ่มผู้โดดเด่น อีกห้าร้อยคน […] ไปหาพระมัญชุศรีแล้ว โค้งคำนับท่านและเดินวนรอบท่าน จากนั้นจึงนั่งลง ที่ด้านหนึ่ง”

เมื่อสุธนะประสบกับ นิมิตแห่งสวรรค์ผ่าน หอคอยแห่งไวโรจนะ นี่ก็เหมือนกับสิ่งมีชีวิต ทางจิตวิญญาณที่อยู่ภายนอกท่าน ซึ่งประทานความสามารถใน ในการมองเห็นให้ท่าน: “ฉันใด บุคคลผู้ถูกวิญญาณ เข้าสิงก็เห็นสิ่งต่าง ๆ มากมาย และบอกเล่าถึง สิ่งที่ถูกถามถึง ฉันนั้น สุธนะ ด้วยพลังแห่งความรู้ของ พระผู้ตรัสรู้ [พระเมตไตรย] ก็เห็นสิ่งต่าง ๆ เหล่านั้นเช่นกัน”

ต่อมาสุธนะได้ยืนยัน เรื่องนี้เมื่อพระเมตไตรย ทรงถามว่าท่านเห็นนิมิตหรือไม่ ท่านตอบว่า: “ข้าพเจ้าได้เห็นพระองค์ผู้สูงส่ง ด้วยพลังอำนาจและ พลังจิตวิญญาณของผู้มีพระคุณ [พระเมตไตรย]”

หลังจากที่สุธนะได้เห็นหลายชาติ ไม่สิ้นสุดของพระเมตไตรย ในหอคอยสุดท้ายของไวโรจนะ ในทุกนิมิต ท่านเห็นตนเอง “อยู่ที่พระบาทของพระเมตไตรย” “[สุธนะ] มองเห็นหอคอย หนึ่งซึ่งใหญ่กว่าหอคอยอื่น ๆ ทั้งหมด และประดับประดา ด้วยเครื่องประดับเหนือกว่า หอคอยอื่น ๆ ทั้งหมด ในหอคอยนั้น [...] ท่านเห็นพระศรีอริยเมตไตรย ประสูติในฐานดอกบัว และทรงเห็นพระศรีอริยเมตไตรย ก้าวเดินไปเจ็ดก้าว โดยมีพระอินทร์และพระพรหมเฝ้าดู ทอดพระเนตรไปทั่วทิศทั้งสิบ ทำให้สิงโตคำราม แสดงให้เห็นช่วงวัยต่าง ๆ ของวัยเด็ก [...] ตื่นรู้ต่อการรู้แจ้ง จ้องมองต้นไม้แห่ง การรู้แจ้ง โดยสม่ำเสมอ พระพรหมทรงสั่งให้สอน และหมุนวงล้อแห่ง คำสอน เข้าสู่สวรรค์ชั้นดุสิต โดยแสดงคำสอน แห่งการรู้แจ้งในรูปแบบ ต่าง ๆ กัน [...] และทุกหนทุกแห่ง สุธนะมองเห็นตนเองอยู่ที่ พระบาทของพระเมตไตรย"

ฉะนั้น พระคัมภีร์กล่าวอย่างชัดเจน ว่า สุธนะเป็นสาวก “ที่พระบาทของพระเมตไตรย” ในหลายชาติ ที่สุธนะได้พบเห็น

บางทีเขาอาจจะเป็นคนบ้าก็ได้ หวังว่าคงจะไม่มีเสียงบ่น จากเขาเกี่ยวกับเรื่องนี้อีก เพื่อที่เราทุกคนจะได้พักผ่อน และก้าวหน้าทางจิตวิญญาณ! และดูแลโลกของเรา ที่กำลังตกอยู่ในอันตรายอยู่ในขณะนี้!

แต่ยังมีเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย ที่ตามมาภายหลัง มันไม่ง่ายอย่างนั้น เขากำลังรอโอกาสอยู่ และเร็ว ๆ นี้ ช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้ ที่ฉันเกือบตาย เพราะการเสียสละ ที่ฉันทำเพื่อโลก และเกือบตาย อีกเช่นกันอีกครั้งหนึ่ง ในตอนอื่น เพราะเวทมนตร์แม่มด ซึ่งฉันไม่ได้เตรียม รับมือ พวกเขาจึงใช้โอกาสนี้ เพื่อพยายามฆ่าฉันและ ยึดครองภารกิจของฉัน และ เพียงเพื่อต้องการทำลายโลกนี้! และเพื่อหลอกล่อผู้คน ให้บูชาซาตาน!

ฉันไม่สงสัยผู้หญิงคนนั้น (แม่มด) เพราะเธอเป็นภรรยา ของลูกศิษย์ของฉัน และเธอก็แอบเข้ามาเป็น ลูกศิษย์เช่นเดียวกับ เหว่บู๋ และ เจิ่มตัม โอ้ ฉันเล่าให้คุณฟังได้ตลอด แต่ยุ่งยากไป ใช้เวลานานเกินไป ฉันไม่ได้เจอแต่พวกปีศาจ หรือผี (ก่อกวน) เหล่านี้ แค่ไม่นานนี้หรือในกลุ่ม ลูกศิษย์เท่านั้น ไม่ใช่ ตั้งแต่สมัยฉันยังเด็กแล้ว มันก็เหมือนหนังหลาย ๆ เรื่อง เรื่องยาวมาก ๆ! เรื่องน่าสนใจ เรื่องอันตราย เรื่องน่าประหลาดใจ

และแล้วตอนนี้ เหว่บู๋ นั่นคือการฟ้อง นั่นคือข้อตัดสินที่ นักบุญกาวด่ายตัดสินเขา เพราะเขาทำลายชื่อเสียงของ พวกท่าน บิดเบือนหลักคำสอนของพวกท่าน ก่อการขัดขวางสันติภาพโลก ฯลฯ แล้วฉันก็ถามบางข้อกับพวกท่าน ในหัวข้อเหล่านี้ ข้อตัดสินทั้งหมดนี้ เราเลยจะพูดคุยกันอีกสักหน่อย แม้ไม่ได้เรียงลำดับ ก็ขอโทษด้วย ฉันเพียงโน้ตไว้บางส่วน แต่ไม่ได้เตรียมเขียน สิ่งที่จะพูดทั้งหมด หรืออะไรทำนองนั้น ปกติแล้วฉันจะไม่เขียนอะไรเลย แล้วฉันจะพูดได้คล่องกว่าหน่อย ด้วยโน้ต ก็จะไม่ค่อยคล่องนัก เอาล่ะ ที่เราพบกัน ก็มีราชาแห่งมาร พระองค์ท่านราชาแห่ง ปีศาจก่อกวน พระองค์ท่าน ราชาแห่งผีก่อกวน และพระองค์ท่าน ราชาแห่งเวทมนตร์ จากโลกมืด ตลอดจนพระองค์ท่าน ราชาแห่งกรรม และพระองค์ท่าน ราชาแห่งความมั่นคง ที่อยู่ที่นั่นด้วย เพื่อรับฟังเรื่องราว เพราะพวกเขาอาจจะต้อง จัดการเรื่องราวในภายหลัง แล้วคุณจะได้เห็น

โอ้ พระเจ้า ฉันอยากจะอ่านทั้งหมดเลย... เอาล่ะ ทีนี้ฉันถามมารว่า “เขาเป็นลูกน้องคุณ ทำงานให้คุณหรือ?” ราชาแห่งมารตอบว่า “ใช่แล้ว” โอ้ พระเจ้า ฉันหวังว่า ฉันไม่ลืมอะไร ฉันจึงถามว่า “สิ่งกีดขวาง สันติภาพเป็นแบบไหน? เขาทำอะไรได้บ้าง?” และนักบุญกล่าวว่า "โดยการรอให้ท่านตาย เพื่อที่เขา จะได้ควบคุมผู้คนได้โดยตรง สำหรับมารในศาสนาคริสต์คือ ซาตาน สำหรับมาร คือปีศาจ” ฉันต้องตรวจดู บางอย่างที่ฉันเขียนก่อน บางอย่างที่ฉันเขียนหลังจากนั้น – ส่วนเพิ่มเติมพิเศษ ตอนนี้คุณรู้เกี่ยวกับชายผู้นี้ ไม่มากก็น้อย

Photo Caption: ศรัทธาอันมั่นคงที่จะพึ่งพา!

ดาวน์โหลดรูปภาพ   

รับชมเพิ่มเติม
วีดีโอล่าสุด
35:10

ข่าวเด่น

156 รับชม
2024-09-23
156 รับชม
แบ่งปัน
แบ่งปันไปที่
ฝัง
เริ่มที่
ดาวน์โหลด
โทรศัพท์มือถือ
โทรศัพท์มือถือ
ไอโฟน
แอนดรอยด์
รับชมในบราวเซอร์ในโทรศัพท์มือถือ
GO
GO
Prompt
OK
แอพ
สแกนโค้ดคิวอาร์ เลือกระบบโทรศัพท์ที่ถูกต้อง เพื่อดาวโหลด
ไอโฟน
แอนดรอยด์